ในศึกยูโร 2024 ที่จะเกิดขึ้นที่แฟร้งค์เฟิร์ต อารีน่า คืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทีมอังกฤษ จะพบกับ เดนมาร์ก ในการแข่งขันที่ทุกคนจับตามอง นัดแรกของกลุ่ม C ทีมอังกฤษ รองแชมป์ยูโรครั้งที่ผ่านมา เปิดตัวได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการเอาชนะ เซอร์เบีย 1-0 ขณะที่ เดนมาร์ก เสมอกับ สโลวีเนีย 1-1 ในการเปิดสนาม ทำให้การพบกันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่มีความสำคัญยิ่ง โดยทั้งสองทีมต่อสู้เพื่อคว้าตั๋วเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของยูโร 2024
สถิติการพบกันล่าสุดระหว่างสองทีมนี้เกิดขึ้นในศึกยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ
ซึ่งทีมอังกฤษสามารถเอาชนะเดนมาร์กได้ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยประตูชัยนั้นได้มาจาก แฮร์รี่ เคน ที่ทำให้ทีมอังกฤษ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่ทีมอังกฤษกลับพ่ายต่อ อิตาลี ทำให้พลาดการคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย ความทรงจำของการชนะเดนมาร์กครั้งนั้นยังคงสดใสในใจนักเตะและแฟนบอลทีมอังกฤษ ทำให้การพบกันครั้งนี้ในยูโร 2024 เพิ่มความน่าสนใจและความดุเดือด
แคสเปอร์ ฮูลมันด์ กุนซือทีมเดนมาร์ก ได้ให้สัมภาษณ์ว่าในนัดเสมอกับ สโลวีเนีย
ทีมของเขามีปัญหาการเล่นที่ขาดความกระชับและเฉื่อยชา ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นในเกมกับทีมอังกฤษ เขายืนยันว่าจะมีการปรับตัวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับทีม โดย คริสเตียน เอริคเซ่น ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลาง คริสเตียน นอร์การ์ด อาจมีโอกาสได้ลงสนามแทน มอร์เตน ฮูลมันด์ เพื่อจัดการการเคลื่อนที่ของบอลในแดนกลาง โดยมี ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ ยืนเป็นผู้โฮลดิ้งเกม
ในแนวรุกนั้น ราสมุส ฮอยลุนด์ ศูนย์หน้าผู้เก่งกาจซึ่งทำไป 7 ประตูจากการลงสนาม 15 นัดให้กับทีมชาติ
จะเป็นผู้ล่าตาข่ายศัตรูร่วมกับ ยุสซุฟ โพลเซ่น ส่วนในแผงหลัง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล กัปตันทีมและผู้รักษาประตู ซึ่งมีประสบการณ์มากมายจะทำหน้าที่ป้องกันประตูอย่างเต็มความสามารถ
ทางฝั่งทีมอังกฤษ ภายใต้การนำของ แกเร็ธ เซาธ์เกต
นัดแรกพวกเขาทำได้ดีเมื่อเฉือนชนะ เซอร์เบีย 1-0 จากประตูของ จู๊ด เบลลิงแฮม ในนาทีที่ 13 ถึงแม้ว่าผลงานจะถูกวิจารณ์ประปรายเรื่องการเล่นที่ไม่ค่อยโดดเด่น เซาธ์เกตอาจมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่งในการพบกับเดนมาร์ก โดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจถูกดันมาเล่นในตำแหน่งกองกลางแทนการเล่นแบ็คขวา
สำหรับ ฟิล โฟเด้น ฟอร์มการเล่นยังไม่เด่นชัดในนัดเปิดสนาม อาจจะไม่ได้ลงตัวจริงในนัดนี้
โดยมีแอนโทนี่ กอร์ดอน, โคล พาลเมอร์ หรือ เอเบเรชี เอเซ่ เป็นตัวเลือกเสริม ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมและหัวใจสำคัญในแดนหน้าจะยังคงลงสนามเป็นหัวหอกตัวหลักในการทำประตู
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม เดนมาร์ก (3-5-2)
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด – โยอาคิม เมห์เล่, คริสเตียน นอร์การ์ด, คริสเตียน เอริคเซ่น, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, วิคตอร์ คริสเตียนเซ่น – ราสมุส ฮอยลุนด์, ยุสซุฟ โพลเซ่น
อังกฤษ (4-2-3-1)
จอร์แดน พิคฟอร์ด – คีแรน ทริปเปียร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม – จาดอน ซานโช่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – แฮร์รี่ เคน
การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าใครจะทำผลงานได้ดีกว่าในศึกยูโร 2024
ซึ่งจะระบุได้ชัดเจนว่าใครจะมีโอกาสเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ทั้งทีมอังกฤษและเดนมาร์กต่างก็พร้อมที่จะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์นี้